Author: Charnsak

  • Things I like about Vienna

    Things I like about Vienna

    Here is the things I like about Vienna. I will keep updating this post.

    1. Great quality mineral water … and it’s FREE!

    If you came to Vienna and have a conversation with someone who live here. You will absolutely been telling about the water of the Vienna. I was told that the water of Vienna come directly from the mountain without any need of water pump or any treatment station. The best part is it go directly to the tap in your kitchen! WOW I was drinking the best clean natural water from the tap! However, I decide to dig down on the internet to find more information. Turn out that they do build the water treatment plant near the spring water area. Those areas are well preserve to prevent the contamination of particles in the water. See the map for the flow of water.

    Vienna Water flow from mountain
    Image from: Wien.gv.at

    Furthermore, There are a lot of “Trinkwasser” station around Vienna. Mostly in the tourist spot, park. The trinkwasser is the German word for “drinking water”. Yes. You can drink those water – for free.

    Trinkwasser station in a park of Vienna.

    2. Trust-able, Cheap Public Transportation.

    The place that I am frequently waiting for my Tram.

    Well, my hometown is Bangkok. It is the top 10 world ranking traffic jam city. I usually spent 2-3 hours on the road in my private car. It will take you more time for the public transport. The connection also very bad. Hence, it is like a paradise for me when I use the public transport in Vienna. It is mostly always on time! the sign at every bus, tram and metro will tell you how much time you need to wait in minutes.

    if you are new here. There are a lot of mobile applications that will help you with the route planning. the basic one is Google Maps which working just fine. However, if you want to get more inside such as monitoring the time for all line, getting the report about malfunctioning elevator. you should use Quando – It will change to WienMobile soon. so if you can’t find it please use the second one.

    The price for the public transport is also very cheap! For a yearly ticket you just pay as low as 1.2 EUR/day!

  • การวัดคุณภาพของงานประชุมวิชาการ

    ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมได้ทำการส่งบทความทางวิชาการเพื่อนำเสนอในงานประชุมวิชาการนานาชาติ

    หน่วยงานแห่งหนึ่ง ได้ตั้งกฏในการให้เงินสนับสนุนสำหรับการเดินทางไปนำเสนองาน เช่น ค่าลงทะเบียน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เอาไว้ว่า

    “งานประชุมวิชาการระดับนานาชาติในประเทศ ไม่มีเงินสนับสนุน”

    “ต้องไปต่างประเทศเท่านั้น คิดตามทวีป” แน่นอนว่าถึงไปต่างประเทศก็ได้เงินไม่ครอบครุมทั้งหมดแน่

    Come on dude. งานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ คุณภาพของงานประชุมวิชาการนานาชาติไม่ได้วัดกันที่ ในประเทศ หรือต่างประเทศ!!!

    ยกตัวอย่างเล่นๆ งานประชุมนานาชาติของ ITU http://telecomworld.itu.int/bangkok/ จัดที่กรุงเทพไปเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา สมมุติว่าผมมีความสามารถไปถึงระดับนั้นได้ ผมจะไม่ได้รับการสนับสนุนทันที เนื่องจากมันจัดในประเทศไทย!! What the Frak!

    คุณค่าของงานประชุมวิชาการ ไม่ได้วัดกันที่ประเทศที่จัด งานประชุมดีๆ เยอะแยะจัดในไทย ในทางกลับกัน งานประชุมวิชาการห่วยๆ จัดที่ต่างประเทศเยอะมาก อันที่จัดปลอมๆเพื่อทำธุรกิจก็มี

    เป็นแบบนี้ จะพัฒนาได้อย่างไร ทั้งตัวเราและ องค์กร

     

    มองไม่เห็นทางเลยครับ

     

  • Your Paper has been “Accepted” คำง่ายๆที่มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับนักวิชาการ

    Your Paper has been “Accepted” คำง่ายๆที่มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับนักวิชาการ

    การยอมรับเพื่อเข้าสู่กระบวนการตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการ

    เวลาที่เราทำงานวิจัย หรือผลงานทางด้านวิชาการสำเร็จ ขั้นตอนที่สำคัญต่อมาก็คือการ ตีพิมพ์นั่นเอง

    การตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการนั้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ (จริงๆมีประเภทย่อยๆมากกว่านี้)นั่นคือ

    1. การตีพิมพ์ในการประชุมวิชาการ
    2. การตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ

    ซึ่งในการตีพิมพ์แต่ละครั้งนั้น จะมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาหรือสายนั้นๆ เป็นผู้ Review ผลงานของเรา เราเรียกว่า Peer Review

    บางครั้งในการประชุมที่ไม่มีคุณภาพก็อาจจะไม่มีคนรีวิวก็ได้

    เมื่อมีคนรีวิวแล้วเค้าก็จะแจ้งผลการรีวิวให้เราทราบ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จำนวนผู้รีวิวจะต้องมีตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

    screen-shot-2559-11-05-at-8-25-39-pm

    ผลของการตีพิมพ์สามารถแบ่งได้เป็น 3 อย่างดังนี้

    1. ACCEPTED! ยอมรับ ตีพิมพ์ได้เลยโดยไม่ต้องแก้ไข
    2. ACCEPTED With Revision ยอมรับ ถ้าแก้ไขตามที่บอกมาแล้ว
    3. REJECTED ไม่ยอมรับ

    ดังนั้น สำหรับนักวิชาการที่ส่งบทความไปตีพิมพ์แล้ว คำว่า ACCEPTED จะทำให้เค้าดีใจอย่างมาก ไม่เพียงแค่นักวิจัยผู้นั้นจะได้ไปแสดงผลงานที่ตัวเองทำงานมาอย่างหนักให้ผู้อื่นได้ทราบแล้ว แต่ยังเป็นสิ่งที่ยืนยันอีกเสียงว่าตัวเองทำงานมาถูกทาง ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับที่ส่งไป

    สรุปแล้วคำว่า ACCEPTED หมายถึง

    1. ดีใจที่ได้ดีพิมพ์ เป็นผลงานทางวิชาการ
    2. งานที่ตัวเองทำมาอย่างหนัก ได้เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นสากล หรืออย่างน้อยๆก็ระดับชาติ
    3. ได้เดินทางไปท่องเที่ยว (กรณี เป็นการประชุมวิชาการ)
    4. ได้ออกไปพบปะผู้คนที่สนใจในเรื่องคล้ายๆกัน บางครั้งก็ได้พบเพื่อนใหม่เลยทีเดียว

     

  • บันทึกเรียน iOS ครั้งที่ 1 กับอาจารย์ Paul Hegarty

    เรียนจาก https://itunes.apple.com/us/course/developing-ios-9-apps-swift/id1104579961

    อาจารย์ Paul สอนเข้าใจง่าย เป็นอีกคอร์สที่ตั้งใจว่าจะเรียนนานแล้ว แต่ก็โดนนั่น โดนนี่ ผลัดไปผลัดมาทุกที

    คนที่จะเรียนควรมีพื้นฐานเรื่อง OOP แน่นๆ และมีประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรมมาบ้างนิดหน่อยก็พอ แค่รู้พื้นฐานเช่น การประกาศตัวแปร Loop ต่างๆ เป็นต้น เพราะ ภาษา Swift ค่อนข้างต่างจากภาษาอื่นพอสมควร

    • ภาษา Swift ใช้ MVC Model  เหมือนภาษาสมัยใหม่ทั่วไป
      • M = Model ใช้สำหรับเก็บข้อมูล ประมวลผล Logic ต่างๆ
      • C = Control ตัวกลางที่ทำหน้าที่ติดต่อระหว่าง M และ V ซึ่ง M และ V ไม่สามารถติดต่อกันได้โดยตรง
      • V = View ตัวที่แสดงผลติดต่อกับผู้ใช้
      • 1 MVC คือ Apps แค่ 1 หน้า ดังนั้น MVC 1 หน้า อาจจะทำหน้าที่เป็น View ของ MVC ชุดอื่นๆก็ได้ (ชอบจริงๆอันนี้ )
    • ภาษา Swift ไม่มี ; สามารถใช้ CR- Carrier Return หรือการขึ้นบรรทัดใหม่ในการจบคำสั่งได้เลย
    • ประกาศตัวแปรใช้คำสั่ง Var และ Let
      • let X : String!
      • var Y : int?
      • let TF = false //ถ้าเป็นแบบนี้ระบบจะทำให้ตัวแปร TF  เป็น Bool  ให้โดยอัตโนมัติ
    • ตัวแปร Swift มีสิทธิเป็น Optional Value โดยจะมี 2 ค่า คือ มีการเซ็ตค่าให้ กับไม่มีการเซ็ตค่าให้
      • เริ่มต้นตัวแปร Optional มีค่า เท่ากับ Nil คือไม่มีค่า ใช้ ? ตามชื่อตัวแปรเพื่อประกาศตัวแปรแบบ Optional Value
      • ถ้าใช้ ? ในการประกาศตัวแปรแล้วละก็ เวลาเรียกใช้จะต้องใช้ ! ตามหลังด้วยเสมอ ไม่เช่นนั้นจะเกิด Erro
      • ถ้าประกาศด้วย ! ตามหลังก็จะสามารถใช้ได้เลย
    • กด CTRL จากนั้นลากจาก View ไปที่ Control จะเป็นการสร้าง Func เพื่อให้กระทำเหตุการณ์ต่างๆจากการคลิก
      • Action
      • ต้องเลือกที่มาด้วยว่ามาจาก UI ตัวไหน ห้ามเลือกเป็น Anything
      • 1 UI สามารถผูกได้หลาย Func
      • ถ้ากด CTRL โดยไม่เลือก Action จะเป็นการประกาศตัวแปรให้เป็น Instance ของ UI นั้นๆ เพื่อเอาไปใช้ใน Code ได้
    • กด Option แล้วคลิกที่ code  เพื่ออ่าน Help
    • เวลาเขียนตัวแปรควรตั้งยาวๆ เพื่อให้สามารถเข้าใจง่ายโดยมนุษย์มากที่สุด เพราะเราไม่จำเป็นต้องพิมพ์เอง มันมี Intellisence ที่โคตรฉลาดอยู่แล้ว

     

  • Commitment

    Commitment

    image: http://www.merriam-webster.com/dictionary/commitment

    จำได้ว่า ผมรู้จัก คำ คำนี้ ตั้งแต่ ประมาณ ปี 2005 โดยรู้จัก จาก New Employee Orientation ที่ Intel ประเทศ อินเดีย โดยตอนนั้นได้ไปฝึกงาน เป็นเวลา 1 ปี

    ผู้สอนในตอนนั้น เน้นย้ำ อย่างยิ่งยวด ว่า Commitment สำคัญที่สุด ถ้าจะให้อธิบายความหมายของคำว่า Commitment แบบง่ายๆเลย คือ “รักษาคำพูด” แต่จริงๆ คำว่า Commitment มันมีความหมายมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่ การ Keep Promise

    ถ้าจะแปลให้โดนจริงๆ ก็น่าจะตรงกับ ภาษาไทยที่ว่า “เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ถึงจะเป็นจะตาย ก็ต้อง ทำตามที่พูดเอาไว้ให้ได้

    ออกจะดูแรง ไปแต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่บริษัทระดับโลก เค้าใช้ทำงานกันมานาน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เค้าไปไกลกว่าเราเยอะมาก

    บางคน อาจจะแย้งว่า อ้าว ถ้านัดแล้วทำไม่ได้เนื่องจาก เหตุสุดวิสัยล่ะ?

    Commitment ที่ว่า ไม่ได้โหดร้าย ขนาดที่จะต้องพูดแล้วต้องทำให้ได้ ถึงขั้นนั้น ถ้าเราไม่สามารถทำงานได้ตามกำหนด หรือ เกิด เหตุ สุดวิสัยขึ้น คนที่ มี Commitment นั้น จะทำการแจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างรวดเร็วที่สุด

    การแจ้งให้คนอื่นรู้ล่วงหน้า เป็นการให้เกียรติ ผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก เนื่องจาก เป็นการทำให้อีกฝ่ายไม่เสียเวลา รอโดยเปล่าประโยชน์ หรือหากเป็นแผนงานใดๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน ก็จะได้หาทาง แก้ไขได้ทันท่วงที

    เพราะฉนั้น เรามารักษา Commitment ของเรากันเถอะ…

    มันดูไม่เป็นมืออาชีพ จริงๆ ถ้าทำไม่ได้